วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สุพรรณบุรี ตำรวจรวบแล้ว คนร้ายลักตู้รับบริจาค วัดสังฆจายเถร หลังย่ามใจ เข้าไปก่อเหตุซ้ำ



              ที่ จ.สุพรรณบุรี จากกรณีมีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักตู้บริจาควัดสังฆจายเถร ตั้งอยู่ริมถนนสายสังฆจาย-มะขามล้ม หมู่ 8 ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี  โดยพระครูสิริกิตติคุณ เจ้าอาวาส ได้เปิดกล้องวงจรของวัดสามารถจับภาพไว้ได้ ภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดูพบจุดแรกคนร้ายเป็นชายอายุระหว่าง 35-45 ปีปิดดูพบคนร้ายมีลักษณะรูปร่างผอมสูงประมาณ 165-170 เซนติเมตรเดินถือแม่แรงยกรถ ขึ้นมาจากทางขึ้นด้านข้างมณฑปพระพุทธนฤมิต(หลวงพ่อดำ) เลาะมาทางด้านหลังพระสังฆจาย  ก่อนจะมานั่งลงที่ตู้รับบริจาคซึ่งเป็นตู้เหล็กหนาทึบแบบสี่เหลี่ยมจากนั้นลงมือใช้แม่แรงดันที่ฝาตู้บริจาค แต่ไม่สามารถเปิดได้ คนร้ายจึงลงไปขโมยตู้บริจาคไม้ที่อยู่หน้าพระสังฆจายด้านล่าง หลบหนี







            พระครูสิริกิตติคุณ เจ้าอาวาส เปิดเผยว่าทางวัดสร้างตู้รับบริจาคไว้ให้ญาติโยม พุทศสานิกชน ที่มาทำบุญไหว้พระขอพรได้ร่วมกันบริจาคเป็นค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ บูรณะปฏิสังขรวัด สำหรับตู้ใบนี้ทางวัดได้นำมาติดตั้งไว้โดยใช้น๊อตยึดฝังติดกับพื้นปูนส่วนฝาตู้ก็อ๊อกปิดตายและจะเปิดปีละ 1 ครั้งโดยใช้หินเจียร ตัดรอยอ๊อกบริเวณฝาปิด ซึ่งจะได้ปัจจัยปีละประมาณ 10,000 – 20,000 บาทจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบันนี้ที่วัดแห่งนี้ได้ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยตู้บริจาคเงินไปแล้วถึง 8 ครั้งแต่ละครั้งหลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเก็บหลักฐานของคนร้ายไว้และออกสืบสวนติดตามแต่ยังไม่สามารถจับตัวได้
ความคืบหน้า








           ช่วงสายวันที่ 7 ต.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าทางวัดได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบพบคนร้ายมีสภาพสะบักสะบอมเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวบ้านพระเณรลูกวัดสังฆจายเถร ไล่จับขณะขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจะก่อเหตุเป็นครั้งที่ 9 เมื่อคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ไล่จับกุมได้ทิ้งรถและอุปกรณ์สำหรับใช้ก่อเหตุหลบหนีไปซ่อนตัวที่หลังห้องน้ำสามเณร แต่ไม่รอดถูกจับได้ควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่สอบสวนดำเนินคดี









              ทางด้าน พระครูสิริกิตติคุณ เจ้าอาวาส เปิดเผยว่าช่วงเวลาประมาณ 04.00 ของวันที่ 7 ต.ค.ขณะที่พระลูกวัดกำลังตีระฆัง ปลุกพระภิกษุสามเณร ตื่นทำวัดเช้าอยู่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีคนร้ายกำลังเข้ามาก่อเหตุ โดยหลบหนีอยู่ในบริเวณวัดจึงบอกพระลูกวัดออกไปดูใช้ไฟฉายส่องหาพบคนร้ายกำลังวิ่งหนีออกไปทางด้านหลังห้องของสามเณร ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนบรรดาพระเณรในวัดจึงตะโกนเรียกชาวบ้านใกล้วัดออกมาช่วยเจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลสวนแตง ซึ่งอยู่ที่ป้อมหน้าวัดจับสุดท้ายสารถจับตัวไว้ได้อย่างล้มลุกคลุกคลาน







              ต่อมา พ.ต.ท.เรวัฎ นูมหันต์ สว.สส. ร.ต.อ.นนทัช มาชัยภูมิ  ร.ต.อ.พีระวัฒน์ วงศ์ทอง รอง สว.สส.พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนได้ควบคุมนำตัวมาสอบสวนทราบชื่อนายฉัตรชัย วังมูล หรือโอ๋ อายุ 39 ปีอยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 1 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ของกลางประกอบด้วยรถจักรยานยนต์ 1 คันแม่แรงสำหรับยกรถ 1 ตัวคีมตัดเหล็ก 2 อันไขควง 1 อันกระเป๋าผ้าสำหรับใส่อุปกรณ์ 3 ใบ และยาบ้าอีก 10 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรช่วยครอบครัวแต่ติดยาเสพติดจึงออกตระเวนหาลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามวัดดังๆซึ่งตนจะใช้รถจักรยานยนต์ และจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง และเป็นคนร้ายตามภาพวงจรปิดของวัดสังฆจายเถร ที่จับภาพไว้ได้จริงซึ่งตนเข้ามาก่อเหตุแล้วหลายครั้งก่อนถูกจับเมื่อคืนวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาได้เข้าไปใช้แม่แรงดันฝาตู้บริจาคเหล็กของแต่เปิดไม่ได้จึงหันไปยกตู้ไม้ที่พระลูกวัดลืมเก็บจากนั้นได้ไปขโมยตู้บริจาคของวัดไผ่แปลกแม่ ที่อยู่ห่างกันประมาณ 5 กม.รวม 2 วัดได้เงินไปประมาณ100 กว่าบาท ก่อนหน้านี้ตนได้เข้าไปขโมยยกตู้เซฟของวัดยางยี่แส ต.กระจัน อ.อู่ทอง ได้เงินในตู้เซฟไป 20 บาทหลังก่อเหตุได้นำตู้ไปโยนทิ้งในคลอง จากนั้นก็ตระเวนหาขโมย มาอย่างต่อเนื่องกระทั่งก่อนถูกจับตนได้แวะเข้ามาดูแต่โชคร้ายเลยถูกจับส่วนเงินที่ได้กู้นำไปซื้อยาบ้ามาเสพและนำไปใช้จ่าย จากนั้นได้นำตัวไปชี้จุดที่คนร้ายก่อเหตุและจุดที่นำของกลางไปทิ้ง











              เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายคงจะดูข่าวและรู้ว่าในตู้เหล็กที่ขโมยไปไม่ได้มีเงินอยู่จึงเตรียมอุปกรณ์ มาครบโดยคนร้ายยังได้เสริมปลายแม่แรงให้สูงขึ้นเนื่องจากครั้งแรกความสูงของแม่แรงไม่พอจึงยกฝาตู้ไม่ได้จึงได้หวนกลับมาก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลว่าคนร้ายก่อเหตุมาแล้วทั้งหมดกี่ครั้งมีที่ไหนบ้างเพื่อจะได้ติดตามนำทรัพย์สินต่างๆคืน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยไม่ได้รับอนุญาต และลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และจากการตรวจสอบประวัติพบผู้ต้องรายนี้เคยถูกจับคดีเสพยาเสพติด     ส่วนสาเหตุที่จับตัวคนร้ายรายนี้ไว้ได้สืบเนื่องจากหลังเกิดเหตุคืนวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเฝ้าระวังตามจุดต่างๆ ของวัดดังทุกแห่งที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายคนร้ายเข้ามาก่อเหตุกระทั่งพบคนร้ายซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้และยังเป็นข่าวแต่คนร้ายยังย่ามใจกลับเข้ามาก่อเหตุอีกจึงถูกจับได้ดังกล่าว  




  



ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี  
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น