วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

สุพรรณบุรี กอ.รมน.อบรมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย และ สถาบันพระมหากษัตริย์



             วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๑ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี  พันเอก เสน่ห์   บำรุงกิจ  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (ฝ่ายทหาร)  มอบหมายให้ พันตรี กวี  ท้าวฬา  รองหัวหน้ากลุ่มงานมวลชนฯ และ ร้อยโท ธง สุวิโรจน์ เจ้าหน้าที่ยุทธการ ฯ ลงพื้นที่ อำเภอบางปลาม้า เป็นวิทยากรในการ ฝึกอบรมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ช่วงเช้าบรรยายหัวข้อประวัติศาตชาติไทยหน้าที่พลเมืองไทย ช่วงบ่ายหัวข้อความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันหลักของชาติ  ณ  อาคารอเนกประสงค์บ้านหงหมู่ที่เจ็ดตำบลองครักษ์อำเภอบางปลาม้าจังหวัดสุพรรณบุรีโดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวน ๑๒๐คน








                 ในการนี้ได้สอดแทรกบทบาทหน้าที่งานของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี ข้าราชการต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ข้าราชการเป็นข้าของแผ่นดินและชี้แจงให้ประชาชนให้เรียนรู้แลพเข้าใจในเรื่องภัยคุกคามความมั่นคง ภายในประเทศและนอกประเทศ การปฏิบัติในครั้งนี้ทำให้ประชาชนที่เข้าใจและมีความพึ่งพอใจเป๊นอย่างมาก




 
 



อำนวย  เดชทองคำ  ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

สุพรรณบุรี ทหาร ลงพื้นที่ เยี่ยมอาการป่วย นางสาว อิ่ม ล้อมวงษ์ หมู่ ๓ ต.ดอนเจดีย์




          เมื่อ ๓๑๑๓๐๐ ก.ค. ๖๑ ชุด ชป.รส.มว.ที่ ๑ กกล.จว.ส.พ. ( มทบ.๑๗ ) โดย จ.ส.อ.วินัย เจนจบ หน.ชุด พร้อมกำลังพลจำนวน ๓ นาย ได้เยี่ยมเยือนถามไถ่อาการดวงตาเป็นต้อเนื้อเพื่อจะนำไปรักษาของ นางสาว อิ่ม ล้อมวงษ์ อายุ ๖๒ ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชน 3-7206-00204-29-2 ซึ่งป่วยเป็นต้อเนื้อในตา ข้างขวามองไม่เห็น ข้างซ้ายมองเห็นลางๆ ซึ่งมีหลานชื่อ น.ส.แก้วตา แก้วพิศดาน คอยดูแลและอาศัยอยู่ด้วยกันสองคน ณ บ้านเลขทึ่ ๓๖๔/๑๙ หมู่ ๓ ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี







            ผลการปฎิบัติ : ทางนางอิ่มได้แจ้งว่าต้องรอให้หลานสาวปิดเทอม เนื่องจากไม่มีคนเฝ้าดูแลระหว่างรักษาตัว







อำนวย  เดชทองคำ  ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติโชว์ระบบเตือนภัยล่วงหน้าดินถล่มน้ำป่า



           สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ จัดแสดงสุดยอดนวัตกรรมในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ โดยเฉพาะผลงานระบบเตือนภัยล่วงหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยดินถล่ม ต้นแบบใช้จริง ราคาถูก แก้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นจากเครื่องเตือนภัยแบบเดิม




            นาวาเอกอนุสรณ์ ยังคุ้มญาติ หัวหน้านายทหารฝ่ายอำนวยการกรมการขนส่งทหารเรือ ในฐานะคณะผู้วิจัย กล่าวว่า ระบบเตือนภัยดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก เป็นการพัฒนาต่อยอดตามโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาการแก้ไขปัญหาดินถล่มบนที่สูงตามแนวพระราชดำริ โดยเครื่องเตือนภัยนี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านในท้องถิ่นใช้งานเองได้ เพื่อความปลอดภัยหากเกิดดินถล่มหรือน้ำป่าไหลหลาก สามารถเตือนภัยโดยอัตโนมัติตั้งต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ผ่านการใช้จริงที่บ้านผามูบ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์  ซึ่งเป็นอำเภอที่เคยเกิดภัยพิบัติมาแล้ว ผู้ใช้จึงมีประสบการณ์ตรงจากการมีส่วนร่วมพัฒนาเครื่องมือ ทดลอง และใช้งาน ถือเป็นจังหวัดต้นแบบแรกในการแก้ปัญหาระบบแบบเดิมได้อย่างครบถ้วน





             ระบบเตือนภัยที่พัฒนานี้ ประกอบด้วยตัวตรวจจับ เครื่องส่งสัญญาณและแสดงผล หลักการทำงานเน้นการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในพื้นที่ เพราะชาวบ้านเป็นผู้ใช้งานเอง ดังนั้นจึงต้องง่ายในการสร้าง ใช้งาน และซ่อมบำรุง สามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้า 5 นาที ก่อนถึงพื้นที่ 4 กิโลเมตร ประเมินจากการใช้งานจริงจนถึงปัจจุบันเฉลี่ยเป็น ผู้วิจัยร่วมคิดร้อยละ 15-20 ชาวบ้านมีส่วนร่วมร้อยละ 50 และการนำไปใช้ร้อยละ 30 อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของระบบเตือนภัยจะได้ผลเต็มร้อยก็ขึ้นอยู่กับการรับรู้เทคโนโลยีของชาวบ้าน และการใช้งานที่ต้องมีความต่อเนื่องจริงจัง เนื่องจากระบบเตือนภัยพิบัติดังกล่าวฯ พัฒนาให้มีความแตกต่างจากระบบแบบเดิม โดยคำนึงถึงความน่าเชื่อถือ ใช้ง่าย ราคาถูก ทนความชื้น ไม่ต้องกังวลกับกระแสไฟฟ้า ตรวจจับได้พื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงได้กว้างขึ้น พึ่งพาเจ้าหน้าที่ดูแลระบบน้อยลง เนื่องจากชาวบ้านติดตั้งได้เอง การบำรุงรักษาง่าย ที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง





            ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช.ได้สนับสนุนงบประมาณในการต่อยอดพัฒนาต้นแบบระบบเตือนภัยนี้ ให้เป็นเครื่องมือเพื่อบรรเทาสาธารณภัย พร้อมทั้งส่งมอบให้พื้นที่อื่น ๆ ใช้งานอย่างต่อเนื่องด้วย ถือได้ว่า ระบบเตือนภัยนี้สามารถแก้ประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้อย่างครบถ้วนแล้ว และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาหากพบประเด็นปัญหาเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งการประยุกต์ใช้กับภัยพิบัติอื่น ๆ ตามสถานการณ์ ซึ่งแนวทางการพัฒนาเครื่องเตือนภัยนั้น สามารถปรับลักษณะการทำงานได้อย่างหลากหลาย โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง





            ผู้สนใจ เข้าชมได้ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-13 สิงหาคมนี้ ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่น ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยมีผลงานนวัตกรรมโดดเด่นอีกมากมาย ที่ วช.นำไปจัดแสดงในงาน เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารสกัดรวงข้าวหอมมะลิ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ระบบควบคุมสำหรับโรงเพาะเห็ดถั่งเช่าแบบอัตโนมัติ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำตะลิงปลิงเพื่อลดการสูบบุหรี่ จากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีตรัง นวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  และการวิจัยสู่นวัตกรรมเพื่อพัฒนายั่งยืนระดับโลก จากสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย เป็นต้น


จำนงค์ ศรัณยพิพัฒน์  ผู้สื่อข่าวอาวุโส
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16 นครปฐม เร่งฝึกอาชีพผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ



             นางวิจิตรา บูรณะวานิข ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16  นครปฐม อนุม้ติให้ดำเนินการฝึกอาชีพโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และความมั่นคงในชีวิต ผู้ถือบัตรฯ เข้ารับการฝึกอาชีพ สาขาการประกอบอาหารไทย จำนวน 23 คน และสาขาการทำขนมไทย จำนวน 24 คน ฝึก ณ อาคารอเนกประสงค์ตลาดบางภาษี  ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ระยะเวลาการฝึก 18 ชั่วโมง ฝึกระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2561






              ในโอกาสนี้ ดร. อลงกรณ์ เพชรดี กำนันตำบลบางภาษี ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรม และนางจิราพร  เลิศวรศิริ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลรางกระทุ่ม ให้ความอนุเคราะห์สถานที่ฝึกอบรม สำหรับการฝึกอาชีพเสริมเพื่อการมีงานทำหรือการประกอบอาชีพอิสระครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีความรู้ความสามารถ และทักษะที่จะนำไปใช้ในการทำงานหรือการประกอบอาชีพอิสระ ให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นและก้าวพ้นขีดความยากจน









              ทั้งนี้มาตรการ "พัฒนาคุณภาพชีวิต" ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 ต่อเนื่องจากระยะเริ่มต้น ซึ่งเปรียบเสมือนการให้ "ปลา" และระยะที่ 2 เป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือเป็นรายบุคคล "สอนและให้เครื่องมือในการหาปลา" เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหรือการให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุด ตรงความต้องการบุคคล








 เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

สุพรรณบุรี นางจุฬารัตน์ วันไชยธนวงศ์ มอบเงินและสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประสบอัคคีภัย ตำบลศรีสำราญ



            วันนี้ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๐๐ น นาง จุฬารัตน์ วันไชยธนวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี และคณะ กิ่งกาชาดอำเภอสองพี่น้อง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี โดย นางปวีณ์นุช พุ่มพฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี มอบหมายให้  นางสุกัญญา เกตุแก้วหัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย  ร่วมลงพื้นที่ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอสองพี่น้อง หน่วยงานทหาร ตำรวจ ผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสำราญ พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิก และเจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ ตำบลศรีสำราญ อำเภอสองพี่น้อง เพื่อตรวจเยี่ยมมอบเงินและสิ่งของให้ผู้ประสบอัคคีภัยจำนวน ๑ ราย






             พร้อมนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี พันเอก เสน่ห์ บำรุงกิจ(ฝ่ายทหาร) มอบหมายให้ ร้อยโท ธง สุวิโรจน์ เจ้าหน้าที่ยุทธการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ ร่วม







อำนวย  เดชทองคำ  ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

สระบุรี ผู้ว่าฯ นำถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



           พสกนิกรชาวสระบุรี ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะ (พุ่มเงิน - พุ่มทอง) และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา













           วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เวลา 18.00 น.นายบัณฑิตย์  เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมนางพจนันต์ เทวีทิวารักษ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ   คณะข้าราชการ อัยการทหาร ตำรวจ พลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  องค์กรรัฐ  เอกชน สมาคมฯ ชมรมฯ ประชาชนชาวจังหวัดสระบุรี ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะ (พุ่มเงิน - พุ่มทอง)ตามลำดับ และพิธีจุดเทียน ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 ณ มณฑลพิธี บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี

         
 





             โดยในเวลา19.09 น. นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ประธานในพิธีเดินทางมาถึง ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ พิธีกรเชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ขึ้นถวายเครื่องราชสักการะตามลำดับ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ประธานในพิธีขึ้นเวทีทีประดิษฐานพระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ถวายความเคารพ ถวายเครื่องราชสักการะ พุ่มทอง พุ่มเงิน เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพร แล้วถวายความเคารพ ต่อจากนั้นประธานในพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงเฉลิมพระเกียรติสดุดีจอมราชา ทั้งนี้พสกนิกรชาวสระบุรีทุกหมู่เหล่าได้ตระหนักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์






(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)   บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445