เอไอเอส ร่วมกับ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม จัดเสวนา “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่อันตรายต่อสุขภาพ” ให้แก่สื่อมวลชน - ศูนย์ดำรงธรรม - สคบ. เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ในการนำเสนอหรือเผยแพร่สู่สาธารณะต่อไป
นายกิตติ งามเจตนรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานปฏิบัติการ ภูมิภาค-ภาคกลาง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสในฐานะเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมจึงขอมีส่วนรวมในการแสดงความรับผิดชอบต่อชุมชน และสังคม เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชุมชนถึงคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากเสาส่งสัญญาณซึ่งเอไอเอสได้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรฐานความปลอดภัยที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการทุกรายมีการติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะภายในพื้นที่ชุมชนเพื่อรองรับจำนวนความต้องการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีทางการสื่อสารได้อย่างเท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งอาจมีบางพื้นที่ที่ประชาชนมีข้อวิตกกังวลจากการที่มีเสาส่งสัญญาณตั้งอยู่บริเวณที่พักอาศัย เอไอเอสจึงนำข้อมูลอ้างอิงจาก กสทช. ที่ใช้ทำความเข้าใจกับประชาชนในการเดินสายทั่วภูมิภาคเพื่อให้ความรู้ในประเด็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มาจัดงานเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อ “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่อันตรายต่อสุขภาพ” ทั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับท่านสื่อมวลชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) และประชาสัมพันธ์จังหวัดในการเป็นสื่อกลางนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องเผยแพร่สู่สาธารณชนต่อไป
ดร.ธีรศักดิ์ อนันตกุล ผู้จัดการแผนกเทคนิคโครงข่ายโทรคมนาคม และผู้เชี่ยวชาญด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เอไอเอส กล่าวว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่มีประชาชนวิตกกังวลนั้น ความจริงแล้วไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายมนุษย์ และสัตว์ เพราะว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังกล่าว มีกำลังส่งที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ กสทช. กำหนดไว้ เช่นเดียวกับโครงสร้างเสาส่งสัญญาณที่ก่อสร้างตามหลักวิศวกรรม ที่เป็นไปตามมาตรฐานของสถาบันวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ กสทช. ดังนั้น ประชาชน และผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบเสาส่งสัญญาณจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
โดยจากงานวิจัยระบุว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามี 2 ประเภท คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากลุ่มชนิด ไม่ก่อไอออน (Non-ionizing radiation) ซึ่งเป็นย่านความถี่ชนิดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ(DNA) ในมนุษย์ และสัตว์ ได้ เนื่องจากเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ ซึ่งจะอยู่ในกลุ่มคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ,คลื่นจากวิทยุ เอเอ็ม เอฟเอ็ม ,โทรทัศน์ และคลื่นจากวิทยุสื่อสารตำรวจหรือกู้ภัย สัญญาณ WI-FI เช่นเดียวกับแสงแดด (UV) ที่ถือเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีทั้งความถี่ต่ำ และความถี่สูง
นอกจากนี้องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ได้กำหนดให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำอยู่ในกลุ่ม 2B ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับ กาแฟ ,น้ำมันหอมระเหย และสารสกัดทั้งกลีบใบของว่านหางจระเข้ หรือน้ำมันมะพร้าวที่ผสมกับไดเอทาโนลาไมด์ สำหรับทำให้เกิดฟองในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจำพวกแชมพู สบู่ รวมไปถึงเครื่องสำอาง และสารสกัด เป็นต้น โดยทั้งหมดถือเป็นกลุ่มที่อาจจะ หรืออาจเสี่ยงให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น
“ปัจจุบันยังไม่มีผลวิจัยใดที่ชี้ชัดว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือมีผลกระทบทำให้เกิดโรคต่างๆต่อร่างกายมนุษย์ หรือสัตว์เลย เช่นเดียวกับ กสทช.ที่ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า คลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศมีเกณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กสทช.กำหนดไว้ ”
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากลุ่มชนิดก่อไอออน(Ionizing-radiation) ซึ่งเป็นคลื่นที่มีผลต่ออะตอม และมีผลต่อการแยกอนุภาคอีเล็กตรอนออกไปกลายเป็นอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง เช่น คลื่นจากรังสีแกมมา รังสีเอ็กซ์ เป็นต้น
ในประเด็นเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้างเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือนั้น ทางบริษัทฯได้ดำเนินการติดตั้งก่อสร้างตามหลักวิศวกรรมที่เป็นไปตามมาตรฐานของสถาบันวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ กสทช. ซึ่งในการดำเนินงานก่อสร้างจะปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ดังนั้นจึงมีความมั่นคง แข็งแรงของโครงสร้างที่สามารถทนต่อแรงลมปะทะได้สูงสุดถึง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับระดับความแรงของพายุไต้ฝุ่น หรือแม้แต่แผ่นดินไหวก็ตาม
“เอไอเอส ขอยืนยันว่าการติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามมาตรฐานที่กสทช.กำหนดไว้ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ต่างๆที่ติดตั้งอยู่บนเสาส่งสัญญาณซึ่งได้การรองรับจากผู้ให้บริการ ทั่วโลกในการใช้งาน”
สอบถามเพิ่มเติม อิทธิเดช ศุขดวง : 06 1426 4194 / ชมพลอย พลอยนุช : 09 8669 2355
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
Wednesday, September 7, 2016
ตอบลบ.
"National Toxicology Program Finds Cell Phone Radiation Causes Cancer"
.
http://www.saferemr.com/.../national-toxicology-progam...
จะเชื่อคุณธีรศักดิ์ หรือจะเชื่องานวิจัยหน่วยงานในกำกับของรัฐบาลสหรัฐอเมริกัน